แนวคิด
ของเล่นพื้นบ้าน
คือ สิ่งของวัสดุที่นำมาเล่นโดยทำมาจากวัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น
เป็นผลผลิตจากธรรมชาติหรืออาจเหลือใช้จากธรรมชาติก็ได้
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของสังคมอื่นๆ และของเล่นพื้นบ้านสามารถช่วยหนุนเสริมพัฒนาการต่างๆ
เช่น ด้านการปฏิสัมพันธ์กับสังคม ด้านการสื่อสาร ด้านพฤติกรรมและอารมณ์
ด้านการเลียนแบบและจินตนาการ ด้านการรับรู้ทางประสาทมักมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย
สำหรับของเล่นพื้นบ้านนั้น ถ้าใช้ถูกต้องเหมาะสมก็สามารถช่วยหนุนเสริมพัฒนาการได้
เพราะของเล่นนั้นมีประโยชน์ในการเสริมพัฒนาด้านการสื่อสาร สติปัญญา จิตใจ ร่างกาย
อารมณ์ และสังคม
กิจกรรมเรื่องเล่าจากของเล่นพื้นบ้านเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมในเรื่องของทักษะการพูดและการสื่อสารโดยการถ่ายทอดความคิด
จินตนาการในรูปแบบของการเล่าเรื่องจากของเล่นที่เห็น
เป็นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สร้างจินตนาการจากเรื่องราวในภาพ
ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้เยาวชนเกิดความเชื่อมั่นในตนเอง ทำให้กล้าคิดและสร้างผลงานตามที่คิดได้อย่างอิสระ
วิธีการดำเนินกิจกรรม เช่น เลือกของเล่นที่จะนำมาเล่า ให้เยาวชนแต่ละคนเล่าเรื่องจากของเล่นตามจินตนาการของตนเอง
โดยการเล่าปากเปล่า หรือเขียนเป็นนิทาน
วัตถุประสงค
1.
จัดกิจกรรมให้เยาวชนมีส่วนร่วม
เรียนรู้จากประสบการณ์ มีส่วนร่วมคิด แสดงความรู้สึก
นึกคิด
ทำ และ ตัดสินใจ
2. เพื่อฝึกสมาธิและได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินกับของเล่นพื้นบ้านไปพร้อมๆกับส่งเสริมการอ่าน
สื่อและอุปกรณ
ของเล่นพื้นบ้าน
กลุ่มคนเฒ่าคนแก่ พิพิธภัณฑ์เล่นได้
ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1.
อุ้ยสอนเด็กฝึกทำของเล่นพื้นบ้าน
2.
อุ้ยเล่าความเป็นมาของของเล่นแต่ละชิ้น
การทำของเล่น วิธีเล่น
3.
เลือกของเล่นที่จะนำมาเล่าเรื่อง
4.
ให้เยาวชนแต่ละคนเล่าเรื่องจากของเล่นตามจินตนาการของตนเอง
โดยการเล่าปาก
เปล่า
หรือเขียนเป็นนิทาน
การวัดและประเมินผล
1.
ของเล่นพื้นบ้านที่เด็กสามารถหัดทำได้
2.
ฝึกกระบวนการตั้งคำถามและการหารูปแบบคำตอบต่อยอดการเรียนรู้
ข้อเสนอแนะ
การถ่ายทอดภูมิปัญญาของเล่นพื้นบ้าน
จากผู้สูงอายุสู่เด็กและเยาวชนในท้องถิ่น และการสื่อสารเพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์
ระหว่างผู้สูงอายุกับเด็กและเยาวชนโดยผ่านของเล่นพื้นบ้าน
โดยที่เป็นผู้สูงอายุในกลุ่มคนเฒ่าคนแก่ เด็กและเยาวชน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง
เช่น ครู พบว่า ผู้สูงอายุในฐานะผู้ถ่ายทอดภูมิปัญญามีคุณลักษณะที่โดดเด่น เช่น
เป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องของเล่นพื้นบ้าน มีความ
สามารถในการถ่ายทอดภูมิปัญญา
มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดภูมิปัญญา รักเด็ก และเข้าใจเด็ก เด็กที่มีความสนใจที่จะรับการถ่ายทอดภูมิปัญญามีลักษณะโดดเด่น
เช่น มีความสนใจ มีความชอบของเล่นพื้นบ้าน อยากทำของเล่นเป็น
รวมทั้งเป็นคนช่างสังเกตและซักถาม ปัจจุบันการขาดพื้นที่สาธารณะที่จะทำให้ผู้สูงอายุและเด็กได้มาพบกัน
ควรเพิ่มช่องทางการสื่อสาร ได้แก่ พิพิธภัณฑ์เล่นได้ และห้องสมุดประชาชน
ส่วนสื่อกลางที่ใช้เชื่อมความสัมพันธ์ ได้แก่ ของเล่นพื้นบ้านและสื่อบุคคล
นอกจากของเล่นพื้นบ้านจะเป็นสื่อในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับเด็กแล้ว
ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่างๆ เพิ่มขึ้น คือ ผู้สูงอายุกับผู้สูงอายุ
เด็กกับเด็ก ผู้สูงอายุกับครู และผู้สูงอายุกับคนในชุมชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น